Skip links

ล่ามแตกต่างจากนักแปลอย่างไร

คำว่า "ล่าม" และ "นักแปล" มักใช้สลับกันได้ แต่คำเหล่านี้แสดงถึงบทบาทและทักษะที่แตกต่างกัน เดี๋ยวเราจะมาเจาะลึกถึงความแตกต่างกันระหว่างล่าม กับนักแปล

1. แก่นแท้ของการสื่อสาร

**ล่าม: ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร**

                     ล่ามเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร ล่ามจะต้องมีทักษะในการพูดและสามารถแปลงภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาธุรกิจ การประชุมทางการฑูต หรือการประชุมระหว่างประเทศ ล่ามจะทำหน้าที่เป็นสะพานในการสนทนา และอำนวยความสะดวกในการสื่อสารที่ราบรื่นระหว่างบุคคลที่พูดภาษาต่างๆ

**นักแปล: ผู้ที่เลือกใช้คำได้อย่างสละสลวย

                      ในทางกลับกัน นักแปลคือผู้ที่แปลงข้อความที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งอย่างถูกต้อง โดยคำนึงถึงบริบท และความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม นักแปลทำงานกับสื่อหลากหลาย ตั้งแต่งานวรรณกรรมและเอกสารทางกฎหมาย ไปจนถึงคู่มือทางเทคนิค  เป้าหมายของนักแปลคือการรักษาความหมาย รูปแบบ และความสละสลวยของข้อความ เพื่อให้ผู้อ่านได้ทั้งอรรถรสและความเข้าใจ โดยที่ความหมายของฉบับแปลต้องไม่แตกต่างจากต้นฉบับเดิม

2. วิธีการสื่อสาร

**ล่าม: ใช้วาจา**

                       ล่ามอาจต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และจำเป็นต้องใช้ทักษะการตีความ ประมวลผลแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟังระหว่างการประชุม หรือการล่ามแบบแปลตาม โดยที่ล่ามจะแปลหลังจากที่ผู้พูดจบช่วงหนึ่งแล้ว ความสามารถในการคิดและถ่ายทอดข้อความได้อย่างแม่นยำในขณะนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับล่าม

**นักแปล: ทำงานผ่านตัวหนังสือ**

                      นักแปลทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีระยะเวลาในการคิด ไตร่ตรองมากขึ้น นักแปลมีเวลาเหลือเฟือในการค้นคว้าอย่างรอบคอบและเรียบเรียงคำแปล นักแปลจะต้องใส่ใจในรายละเอียดและใช้คำที่สละสลวยและเข้าใจง่าย

3. ความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม

**ล่าม: คำนึงถึงความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมในการสนทนา**

                      ล่ามไม่เพียงแต่ถ่ายทอดคำศัพท์เท่านั้น แต่ยังต้องทราบถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในภาษาด้วย ล่ามจะต้องปรับการแปลความให้เข้ากับบริบททางสังคมของการสนทนา ทำความเข้าใจสำนวน ภาษาพูด และสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูด เช่น ท่าทาง น้ำเสียง เพื่อให้เกิดการตีความที่ถูกต้อง ล่ามทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกลุ่มต่างๆ ตามบริบทของวัฒนธรรม

**นักแปล: การรักษาบริบททางวัฒนธรรม**

                       นักแปลจะรักษาความแตกต่างทางวัฒนธรรมไว้ในรูปแบบลายลักษณ์อักษร นักแปลจะต้องคำนึงถึง การอ้างอิงทางวัฒนธรรม บริบท และรายละเอียดปลีกย่อยทางภาษา การแปลที่ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่สื่อข้อมูลได้อย่างถูกต้อง แต่ยังรักษาแก่นแท้ทางวัฒนธรรมของข้อความต้นฉบับได้อีกด้วย

                       โดยสรุป แม้ว่าทั้งล่ามและนักแปลต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แต่บทบาทของทั้งสองก็แตกต่างกันในแง่ของวิธีการทำงาน ระยะเวลา และความแตกต่างในเชิงวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการสื่อสารแบบเรียลไทม์หรือการแปลเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก