ทำไมถึงต้องใช้นักแปลภาษา
ทำไมถึงต้องใช้นักแปลภาษา:
อาชีพนักแปลในปัจจุบันถือว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่ท้าทายพอควร เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน ตั้งแต่เด็กวัยเรียนจนเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ส่วนใหญ่ต่างเคยผ่านการใช้ AI ช่วยเรื่องภาษามาแล้วทั้งสิ้น เนื่องจากการใช้ AI ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย ขอเพียงมีโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ และใส่ข้อมูลที่ต้องการให้แปลโดยรอเพียงไม่กี่วินาทีก็ได้คำแปลของภาษาที่ แต่ AI ก็ยังไม่สามารถแทนที่นักแปลได้อย่างสมบูรณ์
งานแปลนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ง่ายๆ ไปจนถึงยากหรือเฉพาะทาง นักแปลภาษาจึงมีบทบาทสำคัญในการแปลงานที่ต้องใช้ความเข้าใจในเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน อย่างเช่น เรื่องของวัฒนธรรม, มารยาท, ระดับภาษา, ความสามารถในการตีความ, การถ่ายทอดภาษาต้นฉบับให้ออกมาสะท้อนอารมณ์โดยคงความหมายเดิมเอาไว้ รวมถึงทำให้คนอ่านเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งกินใจ แม้อาจจะไม่ได้สัมผัสเรื่องราวเหล่านั้นโดยตรง เป็นต้น นอกจากนี้ การใช้บริการนักแปลภาษาที่ผ่านการค้นคว้าความรู้ ผ่านการสั่งสมประสบการณ์มา และรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับภาษาที่ต้องการแปล ยิ่งส่งผลดีต่อชิ้นงานให้ออกมามีประสิทธิภาพ โดยจะช่วยลดระยะเวลาในส่วนของการหาข้อมูลและการศึกษาไปได้มากพอสมควร รวมถึงได้ความแม่นยำและความถูกต้องต่องานแปล แต่ในบางกรณีที่มีปริมาณงานเยอะจนเกินไป อาจต้องใช้ตำแหน่งอื่นเข้ามาช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม เช่น นักพิสูจน์อักษร เป็นต้น เพื่อเป็นการรับประกันให้งานมีคุณภาพออกมาดีและไม่มีข้อผิดพลาด
โดยสรุปแล้ว แม้ว่าจะมีการนำ AI เข้ามาใช้ในวงการแปลมากขึ้น แต่ว่านักแปลก็ยังคงมีบทบาทที่สำคัญในปัจจุบัน เนื่องจากนักแปลสามารถถ่ายทอดเนื้อหาใจความออกมาได้ลึกซึ้ง ละเอียด และครบถ้วนมากกว่า นอกจากนี้ นักแปลที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางสามารถแปลเนื้อหาเฉพาะทางได้ดีกว่า ทำให้งานออกมามีคุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ